นโยบายด้านสุขภาพ ตอน โรงพยาบาลเอกชนกับระบบสุขภาพ
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 1 มกราคม 2564
- Tweet

ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีเกือบทุกจังหวัด มีทั้งโรงพยาบาลขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลรัฐไปได้พอสมควร แต่ก็มีผลกระทบบางอย่างที่เกิดขึ้น ได้แก่
1. แพทย์ พยาบาลจำนวนหนึ่งย้ายที่ทำงานจากภาครัฐไปที่ภาคเอกชน ก่อให้เกิดการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ แต่ข้อดีก็มีนะครับ คือ การเพิ่มงานให้กับบุคลากรด้านสุขภาพจำนวนหนึ่ง
2. การแบ่งเบาภาระงานในการดูแลผู้ป่วย หรือลดความแออัดในโรงพยาบาลของรัฐไปได้พอสมควรทั้งผู้ป่วยใน (ผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาล) และผู้ป่วยนอก (ผู้ป่วยตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอก) โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีฐานะทางการเงินดี
3. ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน บุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน โดยเฉพาะแพทย์ที่ทำงานประจำในโรงพยาบาลรัฐ และมาทำงานรับปรึกษาดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนนอกเวลาราชการ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อาจทำให้อยู่ทำงานในภาครัฐต่อไปตลอด ไม่ลาออกไปเปิดคลินิกส่วนตัว หรือย้ายที่ทำงานไปจังหวัดอื่นๆ
4. ผู้ป่วยที่มีประกันชีวิตสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ โดยไม่ต้องมาใช้บริการที่โรงพยาบาลของรัฐ เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากเบิกจากประกันชีวิตได้ ส่งผลให้เกิดความสะดวกสบายของผู้ป่วยกลุ่มนี้ และลดภาระของโรงพยาบาลรัฐไปได้บางส่วน
5. การเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดภาระหนี้สิน กรณีที่ผู้ป่วยไม่มีประกันชีวิต และมีเงินเก็บไม่มาก อาจต้องใช้เงินเก็บที่มีจนหมด หรือต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่ม เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย
6. ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบการบริการระหว่างโรงพยาบาลรัฐกับเอกชน ทำให้เกิดการพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลรัฐให้มีความสะดวก สบาย รวดเร็วขึ้น เพราะมีระบบบริการที่ให้เปรียบเทียบกัน
โรงพยาบาลเอกชนนั้นมีผลกระทบต่อโรงพยาบาลรัฐในหลายประเด็น ในส่วนของผู้ป่วยก็เช่นเดียวกัน แต่ผมอยากบอกว่าการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบ ดังนั้นผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ก็ต้องคำนึงถึงด้านค่าใช้จ่ายนี้ด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้น