รักษ์สุขภาพ - ตอนที่ 30 เครื่องดื่ม (2)

การวิเคราะห์อภิธาน (Meta analysis) [วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการรวบรวมและวิเคราะห์ผลลัพธ์ (Outcome) จากงานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่ศึกษาหัวข้อเดียวกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ครอบคลุม (Comprehensive) และน่าเชื่อถือ (Credible) มากขึ้น] จำนวน 12 รายการ เพื่อหาความสัมพันธ์ ระหว่างการดื่มชา กับความเสี่ยง (Risk) การเป็นเบาหวาน (Diabetes) พบว่า การดื่มชาวันละ 3 แก้วขึ้นไป สัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2)

การทบทวน (Review) งานวิจัย แบบสุ่ม (Random) ตัวอย่างเปรียบเทียบ ซึ่งครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง (Samples) 1,536 ราย พบว่า ชาวเขียว ลดความดันโลหิต (Blood pressure) ได้เล็กน้อย (1.94 มม. ปรอท) และ ลดคลอเรสเตอรอลและไขมันเลว (Low density lipoprotein: LDL) ได้ปานกลาง (8%)

งานวิจัยแบบตัดขวาง (Cross section) [ซึ่งเป็นการศึกษาที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยจะให้ภาพรวมของประชากร (Population) ณ จุดเวลาที่ทำการศึกษา] เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มชา กับการเกิดฟันหลุดร่วง (Fall out)  ในคนญี่ปุ่น อายุ 40 – 60 ปี จำนวน 24,078 ราย พบว่า การดื่มชาวันละ 1 ถ้วยขึ้นไป สัมพันธ์ (Associate) กับการลดความเสี่ยงเกิดฟันหลุดร่วงลงได้

การวิเคราะห์อภิธานงานวิจัยผู้ป่วยพาร์กินสัน (Parkinson’s) จำนวน 2,215 ราย เปรียบเทียบกับคนทั่วไป จำนวน 145,578 ราย พบว่า ยิ่งดื่มชามาก ยิ่งมีโอกาส (Chance) เป็นพาร์กินสันน้อย 

  1. กาแฟ 

งานวิจัยให้นักดื่มกาแฟ 50 ราย ที่ดื่มกาแฟ เป็นประจำวันละ 3 – 6 แก้ว ให้ทดลอง 2 ครั้ง แยกจากกัน แต่ละครั้งทดลองนาน 3 วัน ครั้งแรกให้ดื่มกาแฟในปริมาณ 200 cc. 4 ครั้งต่อวัน ครั้งที่ 2 ให้ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณ 200 cc. 4 ครั้งต่อวัน โดยทั้ง 2 ครั้งมีการควบคุมอาหาร, น้ำดื่ม, และกิจกรรมอื่นๆ ให้เท่ากันอย่างเข้มงวด

แล้วตรวจวัดปริมาณน้ำในร่างกายทั้งหมด (Total body water: TBW), ดัชนีมวลกาย (Body mass index: BMI), ความเข้มข้นของปัสสาวะ (Urine osmolality), ความเข้มข้นของปริมาตรเม็ดเลือด (Concentration of blood volume), ความเข้มข้นของน้ำเลือด (Hematocrit), ปริมาณปัสสาวะใน 24 ชั่วโมง, และดัชนีวัดการขาดน้ำ (Dehydration index)

การศึกษา พบว่า การดื่มกาแฟ ในสภาพที่ร่างกายได้รับน้ำจากการน้ำดื่มและการกินอาหารเท่ากัน ไม่มีผลให้ร่างกายสูญเสีย (Lose) น้ำแต่อย่างใด

แพทย์บางท่านแนะนำให้ผู้มีความดันโลหิตสูง (Hypertension) เลิกดื่มกาแฟ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่ากาแฟมีผลทำให้ความดันโลหิตสูง จนกระทั่งเมื่อโรงเรียนแพทย์ Harvard ได้ตีพิมพ์งานวิจัยขนาดใหญ่ไว้ในวารสารแพทยสมาคมอเมริกัน (Journal of American Medical Association: JAMA)

แหล่งข้อมูล 

  1. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. และ พญ. ดร. พิจิกา วัชราภิชาต (2566). Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี: สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท ฟรีมาย์ พับลิชชิ่ง จำกัด.