คำถามเกี่ยวกับยา
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : ยาน้ำกัดเท้า
ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า แบ่งประเภทตามกลุ่มยาที่ใช้ตามระยะของการเกิดโรคได้ดังนี้
ก. ระยะแรก: ระยะที่ผิวหนังที่เท้าเริ่มเกิดอาการอักเสบและระคายเคือง: ยาที่ใช้ เช่นยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก เช่นยา Hydrocortisone, Triamcinolone, Betamethasone, Mometasone, Clobetasol, Prednicarbate
ข. ระยะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่รอยโรคที่เท้า: ยาที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังที่เท้า เช่น
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดทาภายนอก (Topical Antibiotics): เช่นยา Mupirocin, Sodium Fusidate, Gentamicin, Chloramphenicol, Povidone-Iodine
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดกิน (Oral Antibiotics): เช่นยา Cloxacillin, Dicloxacillin, Azithromycin, Cephalexin
ค. ระยะที่มีการติดเชื้อราแทรกซ้อน: ยาที่ใช้ เช่น
- ยาต้านเชื้อราชนิดทาภายนอก (Topical antifungals): เช่นยา Ketoconazole, Butenafine, Tolnaftate, Ciclopirox
- ยาต้านเชื้อราชนิดกิน (Oral antifungals): เช่นยา Fluconazole, Griseofulvin, Ketoconazole, Itraconazole, Nystatin
ง. นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยากลุ่มอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคน้ำกัดเท้า เช่น
- ยาแก้แพ้ชนิดกิน (Oral antihistamines): เช่นยา Hydroxyzine, Cetirizine, Diphenhydramine, Cyproheptadine
- ยาขี้ผึ้งวิทฟิลท์ (Whitfield’s ointment) ซึ่งประกอบไปด้วยตัวยา 2 ชนิด คือ กรดเบนโซอิก และกรดซาลิซิลิก
- ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือ วาสลีน
- ห้ามใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก ทาผิวหนังบริเวณที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา เพราะมีความเสี่ยงที่อาจทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลง และห้ามใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกิน 4 สัปดาห์ เพราะอาจกดการทำงานของต่อมหมวกไต
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรียและยาต้านเชื้อราชนิดกิน เป็นยาที่ต้องกินให้ครบตามที่แพทย์สั่ง ห้ามหยุดยานี้เองแม้อาการของโรคจะดีขึ้นแล้ว เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคและป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา
- หากใช้ยาต้านเชื้อราชนิดทา: ควรทาบริเวณผิวหนังที่อยู่รอบๆ การติดเชื้อนั้นด้วย และทาต่อไปอีก 2 สัปดาห์หลังจากอาการของโรคหายเป็นปกติแล้ว เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
- ไม่ควรทา Whitfield’s ointment บริเวณที่มี แผลสด แผลมีหนอง เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
- ในขณะที่ป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ควรสวมรองเท้าและถุงเท้าที่ระบายอากาศได้ดี และขนาดพอดีกับเท้า ไม่รัดแน่นเกินไป ตัดเล็บเท้าให้สั้น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้รองเท้า ถุงเท้า และผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
- หากต้องเดินลุยน้ำบ่อยๆ ในฤดูฝน หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรงโดยการสวมรองเท้าบูท แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ ให้ล้างเท้าด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสกับน้ำสกปรกแล้วเช็ดเท้าให้แห้ง
- เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยาในหญิงมีครรภ์และให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก ทำให้ผิวหนังที่สัมผัสยานี้มีอาการปวดแสบร้อน คัน ระคายเคือง ผิวแห้ง รูขุมขนอักเสบ สีผิวซีดจาง ผิวบาง ผิวลาย ขนดก อาการของโรคนี้รุนแรงขึ้น
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรียและยาต้านเชื้อราชนิดกิน มีอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไป คือ ทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ผื่นแพ้ยาเล็กน้อยถึงรุนแรง
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรียและยาต้านเชื้อราชนิดทาภายนอก ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เฉพาะที่ เช่น แสบร้อนบริเวณที่ทายา คัน แดง ผิวหนังแห้ง และผื่นแพ้ยาเล็กน้อยถึงรุนแรง
- ยาแก้แพ้ ทำให้เกิดอาการ ง่วงซึม ปวดศีรษะ ปากแห้ง ตาแห้ง ท้องผูก ปัสสาวะลำบาก สับสน ใจสั่น
- Whitfield’s ointment ทำให้เกิดอาการ แสบ ระคายเคือง อักเสบ บริเวณที่ทายานี้