logo

คำถามจาก วิกิยา

Home / FAQ ยา/ เซอร์ทราลีน (Sertraline)

คำถามเกี่ยวกับยา

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : เซอร์ทราลีน (Sertraline)

เซอร์ทราลีน คือ ยาต้านเศร้า ทางคลินิกมีการใช้ยาดังนี้

  • รักษาอาการซึมเศร้า: ซึ่งยานี้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้สูงอายุน้อยกว่ากลุ่มยารักษาโรคซึมเศร้า TCAs
  • บำบัดอาการย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive compulsive disorder): ซึ่งพบว่าให้ผลการรักษาได้ดีกว่ายา Clomipramine
  • บำบัดอาการตื่นตระหนก (Panic disorder): ทางคลินิกมีรายงานว่า ยาเซอร์ทราลีนรักษาอาการตื่นตระหนกได้เทียบเท่ากับยา Clomipramine, Imipramine, Clonazepam, Alprazolam, Fluvoxamine และ Paroxetine
  • รักษาอาการผิดปกติหลังได้รับความสะเทือนใจ (Posttraumatic stress disorder)
  • รักษาอาการกังวลต่อการเข้าสังคม (Social anxiety disorder)
  • บำบัดกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น มีภาวะนอนไม่หลับ หรือ เกิดภาวะซึมเศร้ามากขึ้น รวมถึงอาจเกิดภาวะอยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ก่อให้เกิดอาการ วิงเวียน ง่วงนอน ปวดหัว เกิดภาวะตัวสั่น ลมชัก รู้สึกสับสน กลุ่มอาการเซโรโทนิน   
  • ผลต่อการทำงานของหัวใจ: เช่น เจ็บหน้าอก ชีพจรเต้นผิดปกติ มีอาการบวมตามมือเท้า ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูก ปากคอแห้ง คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่อักเสบ ลิ้นเป็นแผล เลือดออกในทางเดินอาหาร
  • ผลต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น ระดับคอเลสเตอรอล ทั้ง HDL และ LDL ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
  • ผลต่อระบบสืบพันธุ์: เช่น ทำให้สมรรถนะทางเพศของบุรุษถดถอย/นกเขาไม่ขัน
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดสิว ผื่นคัน เหงื่อมาก  ลมพิษ
  • ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดภาวะโลหิตจาง รวมถึงเม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดทุกชนิดต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ
  • ผลต่ออวัยวะตับ: เช่น ทำให้เอนไซม์การทำงานของตับ เช่น Serum transaminase เพิ่มสูงขึ้นในเลือด ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ
  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค: เช่น มีรายงานว่าอาจทำให้ร่างกายติดเชื้อเริมได้ง่าย
  • ผลต่อระบบการมองเห็น: เช่น การมองเห็นผิดปกติ เห็นภาพไม่ชัดเจน ปวดตา รูม่านตาขยาย
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น คออักเสบ  คัดจมูก  มีอาการหาวบ่อย
  • ยานี้จัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การใช้ยาจะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ห้ามปรับขนาดยาหรือหยุดการใช้ยาด้วยตนเอง (เพราะอาจเกิดภาวะถอนยา/ลงแดงติด) และให้ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามใช้ยานี้กับเด็กและผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี (ยกเว้นแต่อาการย้ำคิด ย้ำทำ)
  • ยานี้สามารถทำให้ผู้ป่วยเกิดความคิดอยากทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตายได้ ดังนั้นการใช้ยาในกลุ่มนี้จึงต้องเฝ้าระวังเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยควบคู่กันไป หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว ให้รีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์ทันที เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวของผู้ป่วยอย่างละเอียดทุกครั้ง เพราะอาการป่วยบางประเภทไม่เหมาะที่จะใช้ยาเซอร์ทราลีน เช่น โรคตับ โรคไต โรคลมชัก มีภาวะเลือดออกง่าย มีอาการของไบโพลาร์/โรคอารมณ์สองขั้ว หรือมีประวัติติดสาร/ยาเสพติด หรือเคยคิดฆ่าตัวตายมาก่อน
  • ผู้ที่ได้รับยานี้ อาจต้องใช้เวลานานถึงประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้นไปกว่าอาการจะเริ่มดีขึ้น
  • ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพราะจะทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงมากยิ่งขึ้น
  • ยานี้จะทำให้ความคิดการตัดสินใจช้าลง จึงควรต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมากหากผู้ป่วยต้องขับขี่ยวดยานพาหนะ