logo

คำถามจาก วิกิยา

Home / FAQ ยา/ โอเมพราโซล (Omeprazole)

คำถามเกี่ยวกับยา

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : โอเมพราโซล (Omeprazole)

ยาโอเมพราโซล (Omeprazole) คือ ยาที่ใช้รักษาอาการ กรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้/แผลเปบติค นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อ H. pylori (โรคติดเชื้อเอชไพโลไร) ที่มักจะฝังตัวอยู่ในผนังกระเพาะอาหาร และทำให้แผลในกระเพาะอาหารหายช้า ยาโอเมพราโซลจะถูกขับออกจากร่างกายได้ทั้งทางปัสสาวะและอุจจาระ การใช้ยานี้ต้องอยู่ภายในคำสั่งแพทย์เท่านั้น ไม่สมควรไปหาซื้อยามารับประทานเอง

  • ปวดหัว
  • ท้องเสีย หรือ ท้องผูก
  • ปวดท้อง
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ท้องอืด
  • อาจพบผื่นคันได้บ้าง
  • วิงเวียน
  • ปริมาณเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มขึ้น (ตับอักเสบ)
  • ห้ามใช้ยากับ หญิงตั้งครรภ์ และ หญิงที่อยู่ภาวะให้นมบุตร
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคตับ
  • ระวังการใช้ยานี้ในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
  • การใช้ยาโอเมพราโซล ร่วมกับ ยาคลายความวิตกกังวล (ยาคลายเครียด) จะส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์ในตับ และทำให้ระดับยาคลายความวิตกกังวลมีระยะเวลาอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น ทำให้อาการข้างเคียงต่างๆ ของยาคลายความวิตกกังวลแสดงผลกระทบต่อร่างกายได้มากมายตามมา เช่น ง่วงนอนมาก หายใจติดขัด/หายใจลำบาก ยาคลายความวิตกกังวลดังกล่าว เช่นยา Alprazolam, Diazepam
  • การใช้โอเมพราโซล ร่วมกับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการตกเลือดหรือเลือดออกง่าย (ถึงแม้จะพบได้น้อยรายก็ตาม) รวมไปถึง อาการบวม คลื่นไส้ ปวดหัว วิงเวียน อ่อนเพลีย ควรต้องให้แพทย์เป็นผู้ปรับขนาดการรับประทานของยาให้เหมาะสมกับร่างกายของผู้ป่วย ยาต้านการแข็งตัวของเลือดดังกล่าว เช่นยา Dicumarol, Warfarin
  • การใช้โอเมพราโซล ร่วมกับ ยาวิตามินรวมที่มีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ เพื่อบำรุงเลือดหรือรักษาอาการโลหิตจาง/โรคซีด สามารถทำให้การดูดซึมของธาตุเหล็กลดน้อยลง จนส่งผลให้การบำรุงเลือดด้อยประสิทธิภาพลง ควรต้องปรับระยะเวลาของการรับประทานไม่ให้ตรงกัน ทั้งนี้ แพทย์ เภสัชกร จะเป็นผู้แนะนำวิธีรับประทานที่ถูกต้อง
  • การใช้โอเมพราโซล ร่วมกับ ยาลดไขมันบางกลุ่ม อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อตับหรือทำให้เกิดการทำลายตัวเองของกล้ามเนื้อลาย/กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) ยาลดไขมันดังกล่าว เช่นยา Simivastatin, Atovastatin