กระดานสุขภาพ

steroid ทำให้ false negative Anti HIV และ Viread แก้ตับอักเสบทำให้ NAT เป็นลบได้ไหม?
NuNu*****u

26 เมษายน 2558 06:20:51 #1

 

steroidทำให้false negative Anti HIV และVireadแก้ตับอักเสบทำให้NATเป็นลบ?
คือไปตรวจที่Clinic นิรนามมา3ครั้งค่ะ ครั้งแรก3เดือนหลังสี่ยง ครั้งสอง7เดือน ครั้งทีสาม9เดือน ผลAnti HIVเป็นลบ NATเป็นลบ 1เดือนหลังเสี่ยงเป็นไซนัส3เดือนและอยู่ๆไปก็เริ่มมีอาการปอดบวมอักเสบAdmitโรงพยาบาล หลังจากนั้นมีเนื้องอกที่คอและต่อมน้ำเหลืองโตหลายที่ ตอนนี้(เดือนที่9)มีอาการผื่นไขมันที่ศรีษะเป็นสะเก็ด มีสิวผดที่คอและหูเยอะมาก และมีเชื้อราที่เล็บเท้ามีกลิ่นด้วยจะร้องไห้ มีอาการร้อนเหงื่ออกมือท้าตลอดเวลาถึงจะเปิดแอร์เย็นขนาดไหนเป็นไข้ต่ำๆมาตลอดด้วย แต่ตอนนี้ไข้สูงและร้อนมาก
ไปหาหมอรักษาโรคเฉพาะทางมาตลอดทั้งปอดและเนื้องอกและผิวหนัง แต่ไม่หายขาด

อ่านเจอในwebว่าsteroidที่เคยพ่นตอนเป็นไซนัสทำให้ร่างกายไม่สร้างภูมิคุ้มกันอาจทำให้ตรวจAnti HIVเป็นลบได้แถมยังทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นเพราะกดภูมิและร่างกายจะอ่อนแอ และVireadที่กินทุกวันวันละเม็ดก็ทำให้กดเชื้ออาจตรวจไม่เจอในเลือดด้วย
นอกจากนี้Lympositeต่ำมาตลอด9เดือน(ยังไม่เคยวัดCD4) Lumposit20%ของเม็ดเลือดขาว5,000เท่ากับLympositeมีแค่1,000เองถ้าคำนวนเป็นCD4อาจได้30-40%หรืออย่างมากที่สุดCD4แค่300-400หรือวัดจริงอาจน้อยกว่านั้น
คุณหมอพอทราบไหมค่ะว่าถ้าตรวจNATไม่เจอตรวจPCRจะเจอไหมคะ? ตรวจเยื่อบุแก้มจะเจอไหมคะ?
อาการขนาดนี้รักษาคงไม่ทันแล้วใช่ไหมคะ? ถือว่าเป็นเต็มขั้นแล้วใช่ไหมคะ?

 

อายุ: 38 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 พฤษภาคม 2558 16:02:25 #2

การตรวจเลือดด้วยวิธี NAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวี มีวิธีการตรวจแบบเดียวกับ PCR สามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง ถ้าผลเป็นลบ แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่ตรวจมาแล้วหลายครั้ง และตรวจหลังจากเสี่ยง 9 เดือน ผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ได้ติดเชื้อเอดส์ การกินยาเสตียร์รอยด์ หรือยาต้านไวรัส ที่ถามมา ถ้าติดเชื้อเอดส์จริง ก็จะไม่ทำให้ผลเลือดเป็นลบ สำหรับอาการของคุณที่เล่ามาทน่าจะเป็นจากโรคอื่น เช่น โรคออโตอิมมูน เช่น SLE หรือโรคเลือดบางชนิด เช่น ทาลาสซีเมีย เพราะถ้าติดเชื้อเอดส์ ใน 2-3 ปีแรก จะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร อาการจะเกิดหลังจากติดเชื้อ 3-5 ปี ที่พบบ่อยคือวัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ในกรณีของคุณไม่น่าจะเป็นโรคเอดส์ แนะนำให้รักษาต่อเนื่อง

NuNu*****u

4 พฤษภาคม 2558 05:23:48 #3

เท่าที่ทราบตอนนี้เมืองไทยส่วนใหญ่ตรวจHIV1 มีที่ไหนตรวจHIV2 ได้บ้างคะ? 

NuNu*****u

4 พฤษภาคม 2558 05:24:56 #4

ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะที่ช่วยตอบ