กระดานสุขภาพ
| ขอปรึกษาเรื่องรูทวารหนักเป็นแผลครับ | |
|---|---|
|
25 มิถุนายน 2558 08:37:27 #1 เนื่องจากผมมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักแล้วเกิดเป็นแผลฉีกขาด เราควรรักษายังงัยครับ มีอาการแซบแล้วเจ็บเป็นช่วง ๆ ควรใช่ยาหรือไม่ครับ ช่วยบอกทีครับ |
|
| อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 61 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
26 มิถุนายน 2558 03:23:09 #2 คงต้องเริ่มที่ประวัติครับ ถ้ามีประวัติเสี่ยง เช่น มีคู่นอนมากกว่า 1 คนหรือ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุง หรือ คู่นอนมีพฤติกรรมเสี่ยงต้องนึกถึงกามโรค ในกรณีของคุณที่มีการสอดใส่ทางทวารหนัก ถือว่าเสี่ยง ซึ่งแผลที่พบบ่อยคือ เริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศและรอบๆทวารหนัก แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง หรืออาจจะเป็นแผลซิฟิลิส ซึ่งจะเป็นแผลขอบแข็ง ไม่ค่อยเจ็บ พบมากในชายรักร่วมเพศ เป็นหลังเสี่ยง 10-90 วัน แต่จะเป็นตุ่มหนองมากกว่าตุ่มใส แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ ถ้าไม่รักษาจะเป็นระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักษาโดยการฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านหน่วย พบบ่อยในชายรักร่วมเพศ แนะนำหาหมอด่วนครับ และควรตรวจเลือดเอดศ์ด้วย โดยใช้สิทธิที่มี เช่นบัตรทอง ประกันสังคม ไม่เสียค่าตรวจ |
Love*****d |
26 มิถุนายน 2558 04:01:18 #3
มันไม่มีตุ่มใส ๆ นะคับแค่เป็นแผล เเล้วตอนที่มีอะไรกันก้อใส่ถุงตลอดคับ เหมือนตอนนี้แผลก็เริ่มเป็นเกร็ดละครับ
|
Anonymous |
26 มิถุนายน 2558 04:17:12 #4
แล้วถ้าให้มันหายเองนี้เป็นไปได้ไหมครับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
26 มิถุนายน 2558 10:14:25 #5 ถ้าเป็นตุ่มใสๆ แล้วแตกเป็นแผล น่าจะเป็นเริม ซึ่งถึงแม้ว่าจะใช้ถุงยาง แต่ถ้ามีประวัติว่าเคยเป็นมาก่อน ซึ่งในการเป็นครั้งแรก แม้แผลจะหายสนิท แต่จะมีเชื้อไปลบอยู่ที่ปมประสาทหรือเส้นประสาทใกล้ๆกับบริเวณที่เป็นแผล เมื่อมีการกระตุ้น เช่น การร่วมเพศ ร่างกายอ่อนแอ ก็จะเป็นขึ้นอีกได้ และก็จะเป็นๆหายๆ ถ้าแน่ใจว่าเป็นเริม ก็กินยา acyclovir ตามที่ได้แนะนำไปแล้ว แต่ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอครับและอย่าลืมตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสด้วยครับ |
Love*****d |
27 มิถุนายน 2558 06:05:47 #6
ยามีขายตามร้านยาใช่ไหมครับ
|
Anonymous