กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศมีแผล และหนอง
Brig*****t

1 พฤษภาคม 2556 18:09:12 #1

มีอาหารแสบที่อวัยวะเพศมากครับ ตอนแรกคันเล็กน้อยที่ที่อวัยวะเพศ2วันเริ่มแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร พอวันที่2กลับมาถึงห้องจะอาบน้ำจึงเปิดดู ตกใจมากครับ มีแผลเป็นหนองแล้วโดนน้ำแสบมาก เริ่มแรกมีแผลใหญ่ๆ 2จุด พอผ่านไป เริ่มมีตุ่มหนองขึ้นมาอีกหลายจุด แผลไม่นูน แต่เป็นสีเหลืองครับ แสบมาก ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณหนังหุ้มปลาย ยิ่งข้างใต้เส้น สองสลึงจะเยอะและแผลใหญ่ ตอนนี้เริ่มลามมาเป็นตรงบริเวณหัวของอวัยวะเพศ 2จุดแล้วครับ 

*** ไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก่อนหน้าจะเป็น2-3วัน มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ครั้งนั้นแฟนไม่ค่อยมีน้ำหล่อลื่นเลยฝืนทำกันไป อาจจะทำให้เสียดสีและมีแผล ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวไหมครับ

 

ตอนนี้อยากรู้มากว่าเป็นโรคอะไรอยากรักษาให้หาย แสบมากครับ *****ขอเลี่ยงคำตอบให้ไปพบหมอให้เร็วที่สุดด้วยครับ ผมอยู่ที่ประเทศจีน ในอำเภอที่ไกลมาก ทางการแพทย์อาจไม่ค่อยสะดวกครับ แถมคุยกับหมอไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก*****

ถ้ายังไงช่วยแนะนำตัวยาฆ๋าเชื้อ หรือวิธีรักษาเบื้องต้นให้ผมทีครับ ตอนนี้ผมซื้อยา Erythromycin มาทาน2วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น เลยครับ รบกวนคุณหมอช่วยทีครับ
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Brig*****t

1 พฤษภาคม 2556 18:20:12 #2

อีกอย่าง หมอที่ โรงพยาบาลจีนผมไปหามาแล้วครับ เขามอง แล้วก็สั่งตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ พอผลออกเขาก็บอกไม่ได้เป็นไร เอายาให้ผมมาล้าง อวัยวะเพศแค่นั้น ไม่มียากิน หรือ ยาทาอะไรเลยครับ  
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 พฤษภาคม 2556 05:20:09 #3

แผลที่พบบ่อยที่บริเวณอวัยวะเพศคือ เริม ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่นมีตุ่มน้ำใสๆ หรือเป็นตุ่มหนองหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้วมักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม (ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศแต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ ส่วนแผลอื่นที่พบมีแผลริมอ่อนซึ่งต้องกิน erythromycin ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าเป็นไปได้ ถ่ายรูปและขอประวัติเพศสัมพันธ์เพิ่ม เช่น เที่ยวผู้หญิงหรือไม่ มีคู่นอนหลายคนหรือไม่ การใช้ถุงยาง เป็นต้น

นพ. อนุพงศ์