ขออธิบายเรื่องโรคเอดส์ดังนี้

1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว ไม่คัน เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจง ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่

2. ระยะที่ไม่มีอาการ จะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกาย และปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด จะรู้ว่าติดเชื้อเอดส์โดยการตรวจเลือด

3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

ในกรณีของคุณที่มีผื่นขึ้นตามตัว ถ้าภายใน 3 เดือน มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ หรือมีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น ก็ควรจะตรวจเลือด ให้ตรวจเลือดตาม รพ. รัฐบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้ไปตามสิทธิที่มีอยู่ เช่น 30 บาท บัตรประกันสังคม อย่างไรก็ตามผื่นตามตัวมีสาเหตุจากโรคอื่นๆที่ไม่ใช่เอดส์ก็ได้ เช่น โรคผิวหนัง ภูมิแพ้ อย่าเพิ่งกังวล โดยเฉพาะถ้าไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง และถึงแม้ว่าจะติดเชื้อ ปัจจุบันมีการรักษาด้วยยาต้านไวรัสฟรี สามารถมีชีวิตเหมือนคนปกติได้