14. ตลาดธุรกิจฟิตเน็ส-เว็ลเน็ส - ตอนที่ 10

การออกกำลังกายในศูนย์ฟิตเน็ส (Fitness center) มีลักษณะที่แตกต่าง จากการออกกำลังกาย (Work-out) โดยทั่วไป ซึ่ง หมายถึง การกระทำที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย (Internal organs) ที่ต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย (Healthy) นักวิทยาศาสตร์การกีฬา (Sport scientist) ได้จำแนกประเภทของการออกกำลังกาย ดังกล่าว ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

  1. การออกกำลังกายแบบเกร็งกล้ามเนื้ออยู่กับที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (Isometric exercise) โดยจะไม่มีการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การบีบกำวัตถุและการยืนดันเสาหรือกำแพง เหมาะกับผู้ทำงานนั่งโต๊ะเป็นเวลานาน จนไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ไม่เหมาะในรายที่เป็นโรคหัวใจ (Heart disease) หรือโรคความดันโลหิตสูง (High blood pressure) เพราะจะมีการกลั้นลมหายใจในขณะปฏิบัติและเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย(Physical fitness) ได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะทางด้านระบบการหายใจ (Respiratory system) และระบบการไหลเวียนโลหิต (Circulatory system)
  1. การออกกำลังกายแบบมีการยืด-หดของกล้ามเนื้อ (Isotonic exercise) จะมีการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายขณะที่ออกกำลัง เช่น การวิดพื้น (Push-up), การยกน้ำหนัก (Weight lifting), และการดึงข้อ (Pull-up) จึงเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนของร่างกาย เช่น นักเพาะกาย (Body builder) หรือนักยกน้ำหนัก ส่วนผลของการออกกำลังกายเช่นนี้ จะเป็นไปทางเดียวกันกับชนิดแรก
  1. การออกกำลังกายแบบทำให้กล้ามเนื้อทำงานเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ตลอดการเคลื่อนไหว (Isokinetic exercise) เช่น การถีบจักรยานอยู่กับที่, การขึ้นลงแบบขั้นบันได (Harvard step test), หรือการใช้เครื่องมือทางชีวกลศาสตร์ (Bio-mechanics) เช่น Cybex, Biodex, หรือ Treadmill เหมาะกับการใช้ทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬา หรือผู้มีความสมบูรณ์ทางร่างกายเป็นส่วนใหญ่ แต่จะต้องมีความชำนาญในการใช้เครื่องมือเป็นอย่างดี เพราะมีโอกาสเกิดอันตราย (Dangerous) ต่อผู้ออกกำลังกายได้ง่าย ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดเครื่องมือ (Equipment) และบุคลากร (Personnel) ทางด้านนี้เป็นจำนวนมาก
  1. การออกกำลังกายแบบไม่ต้องใช้ออกซิเจน ในระหว่างการเคลื่อนไหว (Anaerobic exercise) เช่น วิ่ง 100 เมตร, กระโดดสูง (High jump), พุ่งแหลน (Javelin), ทุ่มน้ำหนัก (Shot put), และขว้างจักร (Discus throwing) เป็นต้น ส่วนมากแล้ว จะปฏิบัติกันในหมู่นักกีฬาที่ทำการฝึกซ้อมหรือแข่งขัน จึงไม่เหมาะกับบุคคลธรรมดาทั่วไป
  1. การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic exercise) คือ ลักษณะการออกกำลังกาย พร้อมการหายใจเข้า-ออกในระหว่างเคลื่อนไหว เช่น การเดินเร็ว (Brisk walk), การวิ่งเหยาะ (Jogging), หรือการว่ายน้ำ (Swimming) ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้ เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ของนักออกกำลังกาย และเป็นที่ยอมรับของนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ตลอดจนวงการแพทย์เพราะการออกกำลังกายแบบนี้ จะสามารถบ่งบอกถึงสมรรถภาพทางกายของบุคคลนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทำการทดสอบได้จากอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart beat) หรือความดันโลหิต

แหล่งข้อมูล -

  1. http://dspace.spu.ac.th/bitstream/123456789/1475/3/03%20.pdf [2023, July 12].
  2. https://www.goodrx.com/well-being/movement-exercise/aerobic-vs-anaerobic-exercise, [2023, July 12].