3. ตลาดยา – ตอนที่ 65

(3) การเกิดโรคติดต่ออุบัติใหม่ (Emerging) และอุบัติซ้ำ (Re-emerging) มีแนวโน้ม (Trend) เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยโรคอุบัติใหม่ เช่น COVID-19 [ซึ่งในปัจจุบันเป็นโรคประจำถิ่น แต่หากมีการกลายพันธุ์จนเกิดความรุนแรงและระบาดใหม่ จะเป็นโรคอุบัติซ้ำ] และฝีดาษวานร (Monkey pox) ส่วนโรคอุบัติซ้ำ เช่น โรคซาร์ส (SARS = Severe Acute Respiratory Syndrome), โรคเมอร์ (MERS = Middle East Respiratory Syndrome), ไข้หวัดนก (Avian influenza or bird flu) (ซึ่งในปี พ.ศ. 2567 พบการระบาดในกัมพูชาและเกาหลีใต้), โรคคอตีบ (Diphtheria) และไอกรน (Pertussis) และโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ (Re-emerging infectious disease) เช่น วัณโรค (Tuberculosis) และมาลาเรีย (Malaria)

  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบนิเวศ (Ecosystem) โดยก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน (Global warming) ซึ่งทำให้ฤดูร้อน (Summer) ยาวนานขึ้น ฤดูหนาว (Winter) มีระยะเวลาสั้นลง และมีการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบลม (Wind) ซึ่งส่งผลต่อการกระจาย (Dispersion) และความเข้มข้น (Intensity) ของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (Micro-particle) ไม่เกิน 5 ไมครอน หรือ PM 2.5 (PM = Particle matters)

ในช่วงปี พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2562 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนเฉลี่ยเกือบ 5 แสนรายต่อปี ขณะที่โรคประจำถิ่น (Endemic) ในประเทศเขตร้อน (Tropical) กระจาย อาณาเขตมากขึ้น โดยเฉพาะโรคที่มีสัตว์เป็นพาหะนำโรค (Disease-carrier) เช่น ยุง (Mosquito) ที่ทำให้โรคไข้เลือดออกและมาลาเรียแพร่ระบาด

ด้านองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ระบุว่าภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารหรือคุณภาพอาหารแย่ลง เพิ่มความเสี่ยง (Risk) ของโรคที่เกิดจากน้ำและอาหาร ปัจจัยข้างต้น ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการเกิดโรคต่างๆ

อันได้แก่ โรคไม่ติดต่อ (Non-communicable diseases: NCDs) แบบเรื้อรัง (Chronic), มลพิษทางอากาศ (Air pollution), และทำให้มีโอกาสเกิดโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำขึ้นได้ในอนาคต ทำให้ความต้องการ (Demand) ยารักษาหรือการพัฒนายาหรือวัคซีนป้องกัน (Preventive) มีมากขึ้น

  • กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health tourism) ที่เติบโตทั่วโลก จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) ในหลายประเทศทั่วโลก และการแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัส COVID-19 ทำให้ความสนใจ (Interest) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีมากขึ้น

Global Wellness Institute (GWI) ประเมินตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) ทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound annual growth rate: CAGR) ระหว่างปี พ.ศ. 2566 -พ.ศ. 2571) เป็น 10.2% ขณะที่มูลค่าธุรกิจสุขภาวะสมบูรณ์ (Wellness) จะสูงถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 42.9 ล้านล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2571

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/chemicals/phamaceuticals/io/io-pharmaceuticals-2025-2027 [2025, August 25].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Pharmacy_(shop) [2025, August 25].