3. ตลาดยา – ตอนที่ 69

ปัจจัยท้าทายสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาในระยะข้างหน้า ได้แก่

  • ประเทศไทยยังขาดศักยภาพ (Potential) ในการผลิตยาที่ซับซ้อน (Complex) หรือยาที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีระดับสูง (Advanced technology) เช่น ยากลุ่มผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง, ยาชีววัตถุ, และผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งปัจจุบันภาครัฐได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณการวิจัย (Research) และสิทธิประโยชน์ทางภาษี (Tax benefits) ดังนั้น จึงคาดหวังว่าในอนาคตอาจจะเห็นการเพิ่มมูลค่า (Value-added) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ (Demand) ในการใช้ยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง (Efficacy) ในการรักษาโรคได้อย่างเหมาะสม 
  • การแข่งขันในตลาดยามีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจาก . . .

(1)   การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายใหม่จากต่างชาติ ซึ่งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตยาชื่อสามัญ (Generic) เพื่อรองรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออก เช่น ช่วง พ.ศ. 2563 - 2566 จีนขอรับส่งเสริมการลงทุน (Investment promotion) ในอุตสาหกรรมการแพทย์รวมถึงยารวม 23 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 3,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3 โครงการ มูลค่า 432 ล้านบาท ช่วง พ.ศ. 2561 - 2562 ขณะที่ญี่ปุ่นมี 13 โครงการ มูลค่ารวม 1,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7 โครงการ มูลค่า 1,072 ล้านบาท และเกาหลีใต้ 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,015 ล้านบาท)

 (2) การขยายขอบข่าย (Extent) ลงทุนของกลุ่มทุนจากธุรกิจอื่น เช่น กลุ่มปิโตรเคมี/เคมีภัณฑ์ (Petrochemicals) และกลุ่มพลังงาน (Energy) ปัจจัยข้างต้นจะกระทบ (Impact) ต่อผลประกอบการของผู้ผลิตยาในประเทศ

  • ภาระต้นทุนของผู้ผลิตยาในประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นจาก

(1)   การปรับปรุงโรงงานผลิตยาให้ได้ตามมาตรฐาน GMP-PIC/S (= Good Manufacturing Practice for Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) และการกำหนดให้ผู้ผลิตยา, ผู้นำเข้า, และร้านขายยา ต้องจัดหาสถานที่เก็บยา (Storage) และอุปกรณ์ในการกระจาย (Distribution) ยาที่เหมาะสม

(2)   ราคายานำเข้า/วัตถุดิบมีแนวโน้มสูงขึ้น และ

(3)   การดำเนินงานตามกรอบ ESG (Environmental, social, and governance) เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การพัฒนานวัตกรรมหรือลงทุนเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases) ในกระบวนการผลิตยา เช่น การใช้พลังงานทางเลือก (Alternative) (พลังงานแสงอาทิตย์หรือลม) แทนการใช้พลังงานจากน้ำมันหรือถ่านหิน (Fossil), การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดฝุ่น PM (Particulate matter) 2.5, การเพิ่มระบบตรวจสอบ (Inspection) ของเสียก่อนปล่อย (Release) ออกจากโรงงาน, และการเผยแพร่ (Dissemination) ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตยาและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึง (Aware) ที่มาของผลิตภัณฑ์ที่ใช้           

  • การเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership: CPTPP) อาจส่งผลต่อการขึ้นทะเบียนตำรับยา (Formulation) กับระบบสิทธิบัตรโดยยาจดสิทธิบัตรอาจมีระยะเวลาผูกขาด (Monopoly) นานเกิน 20 ปี เพิ่มความไม่แน่นอน (Uncertainty) ต่อราคายาบางประเภท 

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/chemicals/phamaceuticals/io/io-pharmaceuticals-2025-2027 [2025, October 20].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Pharmacy_(shop) [2025, October 20].