3. ตลาดยา – ตอนที่ 72

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ตลาดส่งออก (Export) ยาของไทยยังมีศักยภาพ (Potential) อีกมาก หากผู้ผลิตไทยพัฒนาขีดความสามารถ (Capability) ของตนเอง การมองหาตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาค CLMV (= Cambodia, Laos, Myanmar, Vietnam) และตะวันออกกลาง (Middle East) รวมถึงการร่วมมือ (Collaboration) กับบริษัทยาต่างชาติ (Multi-national) จะช่วยเปิดโอกาส (Opportunity) ในการขยายตลาด (Market expansion) ส่งออกในระยะยาว

5. การวิจัยและพัฒนายาใหม่: ก้าวสู่ Innovation R&D

แม้ไทยจะมีความเข้มแข็ง (Strength) ในการผลิตยาสามัญ (Generic drug) แต่ปัจจุบันเริ่มมีการลงทุน (Investment) ด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and development: R&D) ยาใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งจากภาครัฐและเอกชน และมียานวัตกรรม (Innovation) ของไทยหลายรายการที่ได้รับการยอมรับ (Acceptance)

ความร่วมมือกับต่างประเทศในการถ่ายทอด (Transfer) เทคโนโลยีการผลิตยาที่ทันสมัย รวมถึงการสนับสนุน (Support) จากภาครัฐในรูปแบบต่างๆ จะช่วยกระตุ้น (Stimulate) ให้เกิดการลงทุน R&D มากขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้ม (Trend) เทคโนโลยีในยา (Pharma Tech) ใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) ในการคิดค้นยา, การแพทย์แม่นยำ (Precision medicine) และเทคโนโลยีชีวภาพ (Bio-technology) จะเป็นโอกาสให้ไทยต่อยอดสู่นวัตกรรมยามูลค่าสูง (High value) ในอนาคต

ความท้าทายอุตสาหกรรมยาของประเทศไทย: โอกาสมาแรง แต่แรงต้านก็ไม่เบา

  1. การแข่งขันที่รุนแรง - ตลาดยาไทยกำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง (Fierce competition) จากหลายทิศทาง บริษัทยาข้ามชาติ (Multi-national) ที่มีทั้งทุน (Capital), เทคโนโลยี (Technology), และผลิตภัณฑ์ยานวัตกรรม (Innovation) เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด (Market share) ขณะที่ผู้เล่นในประเทศ (Domestic player) ทั้งรัฐและเอกชน ต่างต้องแข่งขันทั้งด้านราคาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (New product development) 

ยิ่งไปกว่านั้น ร้านขายยาเครือข่าย (Network) ขนาดใหญ่ที่กำลังขยายตัว ก็กลายเป็นแรงกดดัน (Pressure) ต่อร้านยาอิสระ (Independent drug store) และตลาดยาสามัญ (Generic) ราคาถูกจากจีนและอินเดีย ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ผลิตไทยต้องรักษาความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ให้ได้ในต้นทุนที่จำกัด (Cost limitation)

  1. สิทธิบัตรยา: ด่านอุปสรรคของผู้ผลิตไทย การคิดค้นยาต้นแบบ (Original) ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล (Enormous) และสิทธิบัตรยา (Patent) มักได้รับการคุ้มครองนานถึง 20 ปี ส่งผลให้ผู้ผลิตไทยไม่สามารถผลิตหรือจำหน่ายยาตัวนั้นได้จนกว่าสิทธิบัตรจะหมดอายุ และเมื่อหมดแล้ว บริษัทยาต่างชาติก็มักจดสิทธิบัตรใหม่เล็กน้อย (Ever-greening) เพื่อยืดอายุความคุ้มครอง (Protection) ต่อไป ผู้ผลิตไทยจึงถูกจำกัดบทบาท (Role) ในตลาดยานวัตกรรม และยังต้องเผชิญข้อจำกัดจากข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (International trading agreements) ที่เพิ่มการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) ทำให้การแข่งขันยาสามัญยิ่งยากขึ้น

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.pharmconnection.net/thailand-pharmaceutical-market-trends-2025/ [2025, December 1]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Pharmaceutical_industry [2025, December 1].