14. ตลาดธุรกิจฟิตเน็ส-เว็ลเน็ส - ตอนที่ 20
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 30 พฤศจิกายน 2566
- Tweet

- ฟิตเนส (Fitness) - กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากเปิดบริการให้คนมาออกกำลังกายแล้ว ยังมีบริษัทเกิดใหม่ (Start-up) หลายรายที่เล็งเห็นช่องทางในแนวโน้ม (Trend) นี้ อย่าง JAXJOX ที่พัฒนาอุปกรณ์ออกกำลังกาย ด้วยแนวคิดโรงยิมที่บ้าน (Home gym) และห้องชุดฟิตเน็ส (Fitness studio) ผ่านระบบคำนวณความแข็งแรง และการวางโปรแกรมการฝึก เพื่อให้ทุกคนสามารถเล่นฟิตเน็สได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) จากที่บ้าน
- การนอนหลับ (Sleep) – ให้เพียงพอเป็นหนึ่งปัจจัยที่เสริมคุณภาพชีวิต (Quality of life) ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีหลายบริษัทที่เข้ามาลงทุนในด้านนี้ เช่น Sleepace ที่นำเสนอเทคโนโลยีด้านการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เช่น Sleep Dot ที่ตรวจจับการนอน ทั้งการเคลื่อนไหว (Movement) และอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate) หรือ NOX ที่ตรวจจับสภาพแวดล้อมภายในห้องนอน และสร้างบรรยากาศ (Atmosphere) ที่ส่งเสริมต่อการนอนหลับ เป็นต้น
- สุขภาพจิต (Mental wellness) เป็นหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความน่าสนใจ (Interest) ทั้งจากไทยและต่างประเทศ โดยในไทยมี Start-up ที่ช่วยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น OOCA หรือต่างประเทศก็มีซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application: App) ที่ช่วยฝึกสมาธิอย่าง Head Space หรืออุปกรณ์ติดตามอารมณ์ (Emotion monitoring) เช่น Woe Bot เป็นต้น
- การท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพ (Travel and hospitality) - เช่น การจัดโปรแกรมดูแลออกกำลังกาย พร้อมกับพักผ่อน (Relaxation) ในสถานที่ต่างๆ หรือในไทยเองก็มีการท่องเที่ยวโดยผนวกกับศาสตร์อย่างการนวดแผนไทยและ นวดผ่อนคลาย เป็นต้น
Wellness Tech เป็นที่พูดถึงมากขึ้นหลังจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (United Arab Emirates: UAE) จัดตั้งกระทรวงแห่งความสุข ซึ่งมีนโยบายมุ่งเน้นการสร้างและรักษาความสุขของคนในประเทศ นอกจาก UAE แล้ว ทางสหภาพยุโรป (European Union: EU) ได้มีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ผลักดันความสุขและความสมบูรณ์ของประชาชนอีกด้วย (Economy of well-being)
สำหรับด้านธุรกิจ Wellness Tech ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยในปี พ.ศ. 2562 มี Startup 97 ราย ได้รับการลงทุนมากกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท โดยจากการคาดการณ์ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2568 อุตสาหกรรมด้าน Wellness Tech จะเติบโตขึ้น 5.29% ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 210 ล้านล้านบาท)
สำหรับประเทศไทย Wellness Tech มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเพื่อสอดรับกับสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) โดยทาง Ruckdee Consultancy [บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติมาเลเซีย] ได้เผยข้อมูลว่าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของคนสูงอายุ (Elderly) มากเป็นอันดับ 3 ของโลก คิดเป็น 15.8% ของประชากร และมีโอกาสเพิ่มสูงถึง 37.1% ในปี 2593
สิ่งที่ยืนยันถึงโอกาสอันใกล้ของ Wellness Tech คือ มูลค่าของตลาด (Market value) อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3.4% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2561) ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 190,219 ล้านบาท ในส่วนของการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะสมบูรณ์ (Wellness tourism) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 7% ในช่วงปี พ.ศ. 2556 ถึง 2559 หรือกว่า 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก
แหล่งข้อมูล –