14. ตลาดธุรกิจฟิตเน็ส-เว็ลเน็ส - ตอนที่ 20

  1. ฟิตเนส (Fitness) - กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากเปิดบริการให้คนมาออกกำลังกายแล้ว ยังมีบริษัทเกิดใหม่ (Start-up) หลายรายที่เล็งเห็นช่องทางในแนวโน้ม (Trend) นี้ อย่าง JAXJOX ที่พัฒนาอุปกรณ์ออกกำลังกาย ด้วยแนวคิดโรงยิมที่บ้าน (Home gym) และห้องชุดฟิตเน็ส (Fitness studio) ผ่านระบบคำนวณความแข็งแรง และการวางโปรแกรมการฝึก เพื่อให้ทุกคนสามารถเล่นฟิตเน็สได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) จากที่บ้าน
  2. การนอนหลับ (Sleep) – ให้เพียงพอเป็นหนึ่งปัจจัยที่เสริมคุณภาพชีวิต (Quality of life) ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีหลายบริษัทที่เข้ามาลงทุนในด้านนี้ เช่น Sleepace ที่นำเสนอเทคโนโลยีด้านการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เช่น Sleep Dot ที่ตรวจจับการนอน ทั้งการเคลื่อนไหว (Movement) และอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate) หรือ NOX ที่ตรวจจับสภาพแวดล้อมภายในห้องนอน และสร้างบรรยากาศ (Atmosphere) ที่ส่งเสริมต่อการนอนหลับ เป็นต้น
  3. สุขภาพจิต (Mental wellness) เป็นหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความน่าสนใจ (Interest) ทั้งจากไทยและต่างประเทศ โดยในไทยมี Start-up ที่ช่วยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น OOCA หรือต่างประเทศก็มีซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application: App) ที่ช่วยฝึกสมาธิอย่าง Head Space หรืออุปกรณ์ติดตามอารมณ์ (Emotion monitoring) เช่น Woe Bot เป็นต้น
  4. การท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพ (Travel and hospitality) - เช่น การจัดโปรแกรมดูแลออกกำลังกาย พร้อมกับพักผ่อน (Relaxation) ในสถานที่ต่างๆ หรือในไทยเองก็มีการท่องเที่ยวโดยผนวกกับศาสตร์อย่างการนวดแผนไทยและ นวดผ่อนคลาย เป็นต้น

Wellness Tech เป็นที่พูดถึงมากขึ้นหลังจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (United Arab Emirates: UAE) จัดตั้งกระทรวงแห่งความสุข ซึ่งมีนโยบายมุ่งเน้นการสร้างและรักษาความสุขของคนในประเทศ นอกจาก UAE แล้ว ทางสหภาพยุโรป (European Union: EU) ได้มีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ผลักดันความสุขและความสมบูรณ์ของประชาชนอีกด้วย (Economy of well-being)

สำหรับด้านธุรกิจ Wellness Tech ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยในปี พ.ศ. 2562 มี Startup 97 ราย ได้รับการลงทุนมากกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท โดยจากการคาดการณ์ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2568 อุตสาหกรรมด้าน Wellness Tech จะเติบโตขึ้น 5.29% ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 210 ล้านล้านบาท)

สำหรับประเทศไทย Wellness Tech มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเพื่อสอดรับกับสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) โดยทาง Ruckdee Consultancy [บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติมาเลเซีย] ได้เผยข้อมูลว่าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของคนสูงอายุ (Elderly) มากเป็นอันดับ 3 ของโลก คิดเป็น 15.8% ของประชากร และมีโอกาสเพิ่มสูงถึง 37.1% ในปี 2593

สิ่งที่ยืนยันถึงโอกาสอันใกล้ของ Wellness Tech คือ มูลค่าของตลาด (Market value) อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3.4% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2561) ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 190,219 ล้านบาท ในส่วนของการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะสมบูรณ์ (Wellness tourism) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 7% ในช่วงปี พ.ศ. 2556 ถึง 2559 หรือกว่า 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก

แหล่งข้อมูล – 

  1. https://katalyst.kasikornbank.com/th/blog/Pages/wellness-tech-new-business-trend-when-people-focus-on-health.html [2023, November 29].
  2. https://weblink.set.or.th/dat/vdoArticle/attachFile/AttachFile_1550652035837.pdf [2023, November 29].